Thursday, June 29, 2006

ฝีมือผมเป็นไงบ้างครับ

เออ!!!ช่วงนี้ปารย์ เปลี่ยนจากบรรดาศักดิ์ให้แม่ จาก“แม่”มาเป็น “พี่” ปารย์เรียกแม่ว่าพี่เปิ้ลตามพี่นาม และพี่กานต์หนะสิ

อยู่ด้วยกัน สองคนมาสามวันแล้ว ปารย์ไม่มีตัวเลือกเลยต้องง้อแม่หน่อย อะไรๆก็ต้องมาเรียกพี่เปิ้ล พี่เปิ้ล พี่เปิ้ลฉี่ พี่เปิ้ลอึ

นอกจากนั้นช่วงนี้เพื่อนๆของปารย์ในซอยเดียวกัน จะเข้ามาเล่นในบ้านทุกเย็น บ้านเราเลยกลายเป็นสนามเด็กเล่นไปเลย ของเล่นทั้งหลายมันจึงมาเกลื่อนอยู่ตามพื้น แต่ก็ได้ชื่นใจที่ปารย์ช่วยแม่เก็บของเล่น หลังจากพี่ๆเขากลับบ้านกันไปหมดแล้ว

กิจกรรมสุดโปรดช่วงนี้ของปารย์ก็น่าจะเป็นการขีดๆ เขียนๆ นี่แหละ เชิญชมผลงานเลยละกัน






Friday, June 23, 2006

ไปเที่ยว เรือ Blue Access

ฮะ ฮ่า อย่า อย่าคิดนะว่าครอบครัวเราจะไปเที่ยวเรือสำราญกัน ไม่ซะหละ คนขี้เหนียวอย่างพ่อ กับแม่เหรอ จะยอมจ่ายตังก์ ไปเที่ยวเรือสำราญ

เช้าเมื่อวานลุงสายัญ เพื่อนพ่อโทรมาชวนพ่อไปเที่ยวแหลมฉบัง พ่อก็รับปากอย่างว่าง่าย แล้ว ค่อยหันมาชวนแม่ว่า ไปเที่ยวแหลมฉบังกันนะเย็นนี้สายัญคงอยากให้เราไปหาจริงๆ โทรมาหาหลายครั้งแล้ว ตอนเรืออยู่ญี่ปุ่นก็โทรมา แม่หนะชอบเที่ยวอยู่แล้ว ไปดิ

ระหว่างทางไม่รู้เจ้าปารย์ไปเอาแรงมาจากไหน เล่นต่อสู้กับแม่ ซะแม่เหนื่อย ตลอดทางได้ยินแต่คำว่า ......แรนเจอร์ แล้วพุ่งใส่แม่ สงสัยพี่ๆที่บ้านเด็กจะเอามาเปิดให้ดูแน่เลย แม่ยังไม่รู้เลยหน้าตามันเป็นไง ปารย์มาสงบลงบ้างเมื่อแวะปั๊มซื้อกลูลิโก๊ะป๊อกกี้ให้กิน

แหลมฉบังนี่มันไกลจัง ไม่ถึงซะที แหะๆ พวกเราหลงอีกแล้ว เนี่ยขนาดพ่อมีทั้ง แผนที่ ทั้ง GPS ก็ยังหลง อิ อิ แต่สุดท้ายก็ถึงจนได้ ลุงสายัญยืนรออยู่หน้าทางเข้าท่าเรือ พร้อมหิ้วถุงพะรุง พะรัง มีทั้ง PIZZA & KFC อืมค่อยยังชั่วกำลังหิว

เสียง “ว๊าว” ออกมาทันทีที่ปารย์เห็นเรือลุงสายัญ ถ้าพูดได้มากว่านี้คงบอกว่ามันใหญ่จังนะแม่ แม่ก็ว่ามันใหญ่จัง เรือ MV.SEAFDEC ที่ทำงานแม่เล็กไปเลย แค่บันไดทางขึ้นก็เหมือนเดินขึ้นตึกสามชั้นแบบไม่มีขั้นพัก ดูปารย์ตื่นเต้นจัง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูโน่นดูนี่ ลุงสายัญพาเดินดูเกือบทั่วเรือ ทั้งสะพานเดินเรือ ห้องเครื่อง ห้องเก็บสินค้า ห้องกินข้าว ห้องครัว แล้วก็เอารูปน้องทะเลใสลูกลุงสายัญมาให้ดู

สินค้าที่เรือ Blue Access ขนเป็นพวกรถครับ เกือบพันคัน จอดเรียงรายอยู่บน 3 ชั้นของเรือ ลุงสายัญบอกเดินทางไปส่งที่ท่า OSAKA ประเทศญี่ปุ่น

แล้วก็ถึงเวลากลับ ก่อนกลับลุงสายัญเอาจักรยาน + เครื่องเสียงติดรถยนต์ให้พ่อมาด้วย สงสัยจะแลกกับหนังสือที่พ่อซื้อมาฝาก ไม่รู้ลุงสายัญจะคุ้มไหมนะลูก...

Thursday, June 22, 2006

เมื่อปารย์....พูด +ร้องเพลง

เดือนนี้ปารย์ก็ 2 ขวบ 7 เดือนแล้วสินะ เจ้าหนุ่มน้อยผู้กลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากของแม่เริ่มจะพูดออกมาบ้างแล้ว เช่นสั่งให้แม่ทำโน่นทำนี่ “กิน” “นั่ง” “ปิดไฟ” “เปิดไฟ” “แกะ” (กล่องขนม) “สวัสดดีครับคุณครู” เรียกชื่อสารพัดสัตว์ได้ถูกต้องเกือบหมด และก็ร้องเพลงด้วย จากเดิมที่ชอบร้องเพลงแต่งเอง ตอนนี้มาเป็นร้องเพลงที่คนอื่นแต่งบ้างแล้ว เมื่อวานนอนร้องเพลง ชื่ออะไรแม่ไม่รู้เหมือนกัน แต่มีเนื้อร้องประมาณว่า
อย่าทิ้งขยะนะเธอ ลูกเป็ดเขาเจอเดี๋ยวเขาดุเอา
อย่าทิ้งขยะนะเรา ลูกเป็ดเจอเข้าบนกันพึมพำ
ก๊าบ กาบ กาบ กาบ กาบ กาบ
ก๊าบ กาบ กาบ กาบ กาบ กาบ
อันที่จริงเนื้อเพลงข้างบนนี่ มาจากเท่าที่แม่พอจะนึกได้แหละนะ แต่ทำนองเพลงที่ปารย์ร้องเนี่ย แม่ว่าต้องใช่เพลงนี้แน่ๆ ถ้าจะให้ถูกต้องตามที่ปารย์ร้อง เพลงนี้ต้องมีเนื้อเพลงว่า
อย่าหิ้ง.....นะเธอ ...เป็ด.....เจอ..............หลุเอา
อย่าหิ้ง......นะเฮา ....เป็ดเจอเห้าบ่............พึ.พำ
ก๊าบ กาบ กาบ กาบ กาบ กาบ
ก๊าบ กาบ กาบ กาบ กาบ กาบ
ที่น่าดีใจอีกอย่าคือเมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่ปารย์ร่วมมือกับแม่อ่านตามบัตรคำฝึกอ่านที่แม่ทำไว้ให้ปารย์ตั้งแต่ปารย์ยังไม่ครบ 8 เดือน โหน้ำตาแทบไหล แม่รอมาตั้งนานในที่สุดก็ได้ใช้งานจนได้

Wednesday, June 21, 2006

ปารย์…. คุณครูคนนั้นเขาทำได้ไงอะ...

แล้ววันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน ที่ปารย์ไม่อยากไปโรงเรียน
แต่ทำไมตอนกลับจากโรงเรียนก็เห็นหน้าบาน แสดงว่าอยู่โรงเรียนก็ไม่ได้ทุกข์อะไร
แต่ทำไมไม่อยากไปโรงเรียน
เมื่อเช้าเล่นบทไม่ยอมลุกจากที่นอน
จนแม่ต้องเช็ดตัว เช็ดฟันให้แทนการอาบน้ำ แปรงฟัน
แต่การเช็ดฟันหนะ ไม่ได้ช่วยให้กลิ่นปากที่ปารย์นอนน้ำลายบูดทั้งคืน ลดลงเลย
แล้วก็ยังแผลงฤทธิ์ ไม่ยอมใส่ชุดนักเรียนอีกด้วย
กว่าจะใส่ชุดนักเรียนเสร็จ เล่นเอาแม่เหนื่อย
ฝนก็ตกด้วยสิ วันนี้กว่าคุณครูจะพาปารย์เข้าโรงเรียนได้ ปารย์อาจเปียกนะ(แม่เริ่มเป็นห่วง)
เมื่อวานคุณครูต้องแย่งปารย์ไปจากพ่อ ปารย์ถึงจะยอมไปอะ ไม่งั้นก็หนีไม่ยอมไปหาครู

พอเจ้าสีกุนเริ่มเลี้ยวเข้าโรงเรียน ฝนซาลงแล้ว
แต่แม่ยังลุ้นอยู่
เอะวันนี้ ครูผู้ชายมารับแฮะ
ครูคนนี้แม่ไม่รู้จักอะ ตอนประชุมผู้ปกครองครูคนนี้ก็ไม่ได้มาแนะนำตัวด้วยสิ
พอคุณครูชายคนนี้มารับ ปารย์ก็ยิ้มให้คุณครู
คุณครูอุ้มปารย์ลงจากรถ
คุณครูบอกปารย์ให้สวัสดีพ่อ ปารย์ก็ยกมือ สวัสดีครับ
คุณครูบอกปารย์ให้สวัสดีแม่ ปารย์ก็ยกมือ สวัสดีครับ
แล้วก็เดินตามครูไป
ปารย์เป็นเด็กว่าง่ายได้อย่างปาฏิหาริย์
คุณครูเขาทำได้ไงครับ.... ลูกปารย์

Tuesday, June 20, 2006

ปารย์ ไม่อยากไปโรงเรียน....

โอ้โห เช้านี้ปารย์ดื้อจัง เริ่มจากไม่ยอมอาบน้ำ จะออกไปเล่นข้างนอก ไม่ยอมแปรงฟัน กว่าแม่จะจับอาบน้ำ และแปรงฟันได้ มีหอบ.... พออาบน้ำเสร็จไม่ยอมใส่ชุดนักเรียนอีก แต่จะใส่ชุดอื่น ทำไงดีหละ ก็โรงเรียนเขายังอยากให้นักเรียนอยู่ในชุดเหมือนๆ กันอยู่อะลูก แม่ไม่รู้จะทำไงดี เลยอุ้มขึ้นรถทั้งๆที่ใส่กางเกงในตัวเดียวอยู่เลย ยังดีนะที่พ่อจับใส่กางเกงในได้ อยู่ในรถก็พยายามกันหลายรอบ สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เจ้าปารย์ไปถึงหน้าโรงเรียนในสภาพ เกือบจะเป็นชุดวันเกิด พอคุณครูมาเปิดประตูก็ทำเป็นนั่งเขียนหนังสือซะงั้น สุดท้ายคุณครูต้องช่วยแม่แต่งตัวปารย์ โดยมีพ่ออุ้มปารย์ไว้ พ่อแม่คนอื่นที่มาส่งลูกๆกัน เห็นแล้วก็ยิ้มๆ ขำๆ กับครอบครัวอลเวง ของเรา เอ่อ........ ปารย์จะเป็นงี้ไปอีกนานไหมเนี่ย

Saturday, June 17, 2006

วันไหว้ครู


วันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมาเป็นวันไหว้ครู ของโรงเรียนอนุบาลปานตะวัน
ก่อนหน้าสองวัน พ่อก็สังเกตเห็น บอร์ดโรงเรียนประกาศไว้แล้ว แต่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า "ก็ดี"

แต่เรื่องไม่ง่ายเหมือน เจ้าหญิงในนิยาย (เรื่องอะไร นึกกันเอาเอง) พ่ออ่านสมุดบันทึกปารย์ของวันที่ 14 มิย. ปาไปจะสองทุ่มอยู่แล้ว เนื้อหาชัดเจนและจริงจัง "พรุ่งนี้เป็นวันไหว้ครูของโรงเรียน กรุณาเตรียมดอกไม้ ธูปเทียนให้น้องด้วยนะคะ ลงชื่อคุณครูเย็น" พ่อหันไปมองหน้าปารย์ ปารย์ก็งง มองทำไม สองทุ่มแล้วนะ บอลจะแข่งแล้วด้วย นั้นก็ที่พ่อห่วง!! "ปารย์ไปปั่นจักรยานกันไหม๊" พ่อเอ่ยปาก "ปั่นจักรยานเหรอ" เป็นสูตรสำเร็จของปารย์ที่จะตอบกลับการสนทนา ทำท่าเหมือนยังงง!! คงนึกพ่อพูดผิดหรือเปล่าว๊า มันต้อง ขึ้นข้างบนกันไหม๊ ซิ แต่ก็นั่งอยู่ไม่ได้นาน เพราะพ่อ คว้าจักรยานออกนอกบ้าน เรียบร้อยแล้ว

เราเริ่มจากสวนที่ใกล้ที่สุด ในซอยด้านใน อะฮา มีดอกเข็ม สีแดงข้างรั่ว ดอกเดียวพอไหม๊ปารย์ เราลองปั่นไปที่สนามเด็กเล่นกันนะ เผื่อมีดอกไม้ ออกหัวค่ำ พ่อบอกปารย์ โดยมีคำตอบอะไรออกมาหนึ่งชุด แฮะพ่อฟังไม่รู้เรื่อง ยังมีคนวิ่งอยู่ คนสองคน สลัวมากแล้ว คือไม่มีแสงอาทิตย์แล้ว พ่อแว๊บเห็นดอกอะไรสักอย่าง สีชมพูสวยเชียว แต่ดูท่ามันน่าจะเหี่ยวง่ายนะ เลือกเอาที่มันเป็นตูมๆ หน่อยนะ คิดถึงแม่ปารย์ขึ้นมาอย่างแรง แม่คงทำให้ปารย์ได้ดีกว่าพ่อแน่ๆ ไม่เป็นไร เอาใหม่ปีหน้า

เหลือธูปกับเทียน ที่บ้านคงมี เอาปารย์ไปนอนก่อนนะ ปารย์เข้าใจว่าพ่อจะกินดอกไม้เป็นมื้อเย็น พยายามจะช่วยล้าง ช่วยเด็ด เหมือนล้างผัก เบรคกันจนเคืองไปหลายรอบ กว่าจะได้นอน พ่อแอบย่องไปหาธูปเทียนชั้นสาม แอ๊ ไม่มีเทียนแหะ อ้อ เทียนแพไหวไม่ พอได้ โอเค พรุ่งนี้ปารย์มีทุกอย่างครบแล้ว พ่อก็ไปดูบอลต่อ

หมายเหตุ นึกว่ากล้องถ่ายรูปอยู่บ้านยาย เลยไม่มีรูปชุดไหว้ครูของปารย์ มาอวดเลย

Sunday, June 11, 2006

ดนตรีในสวนธนฯ ... โดยบังเอิญ

พ่อ กับแม่เนี่ยชอบไปดูดนตรีในสวนกันมาก ดูมาตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน จนแต่งงานแล้ว จนมีลูก และแน่นอนก็ต้องพาลูกไปดูด้วย บรรยากาศมันดีมากเลยอะ เพลงเพราะๆ ในสวนสวยๆของกรุงเทพมหานคร คนไม่เยอะมากนัก และก็ฟรีด้วย ชอบๆ สวนที่เรามักไปดูดนตรีกันก็สวนลุม นั่นแหละ แต่ดูดนตรีในสวนตามหัวข้อของวันนี้ไม่ใช่ที่สวนลุมนะ เป็นสวนธนบุรีรมย์ สวนสาธรณะขนาดย่อมๆ ที่อยู่ใกล้บ้านเราที่สุด ที่ว่าโดยบังเอิญก็เพราะว่า พ่อกับแม่กะพาปารย์ไปเดินเล่นในสวนเท่านั้นเอง เพราะถ้าอยู่บ้าน ปารย์ก็จะพยายามจูงมือพ่ออกจากบ้านอยู่เกือบตลอดเวลา เลยพาไปเดินเล่นไกลๆไปซะเลยดีกว่า

เดินไปเห็นเวทีเข้า เลยต้องรอดูสักหน่อยว่าใครมาแสดงบ้าง ปารย์ก็แสดงท่าทีสนใจมากด้วยการเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหน้าสุด แล้วพ่อก็หันหน้ามาบอกแม่ด้วยใบหน้าตื่นเต้นว่า หนึ่งในนักร้องวันนี้เป็นอี๊ด ฟุตบาท ideal man ที่สร้างครอบครัวด้วยเสียงดนตรี กับลูกสาวสองคนที่เล่นดนตรีได้ดั่งใจพ่อ

แต่การดูดนตรีของเราวันนี้ก็มีอุปสรรคเหมือนกันนะ ก็ฟ้าฝนที่ไม่ค่อยจะเป็นใจในฤดูนี้แหละที่ตกซะหนักเลย ต้องหยุดรอให้ฝนหายถึงจะเริ่มเล่นกันใหม่ได้ แต่ก็คุ้มที่รอดูนะ เพราะปารย์ดูด้วยความสนใจมาก พี่น้องสองสาวเล่นเพลงที่ไปประกวดชนะเลิศที่สวิตเซอร์แลนด์มาด้วย คุ้มจริงๆ แม่กับพ่อ และน้า น้าของปารย์ อยากให้ปารย์รัก และเล่นดนตรี ปายจะได้เป็นคนที่มีจังหวะไง เนี่ยพ่อหมายมั่นปั้นมือแล้วนะว่าอยากให้ปารย์เล่นไวโอลิน