Tuesday, March 23, 2010

กะปิก็เคยกิน กระบี่ก็เคยไป...2

ว้นที่สองที่กระบี่ พ่อแยกไปทำงาน เราสองคนแม่ลูกก็ติดต่อทัวร์ของ Krabi Sea Cave ไปพายเรือคะยักกัน แม่พายไม่เป็นหรอกแต่อยากทำมานานแล้ว


จุดหมายเราที่นี่เลย


แม่พายที่หัวเรือ มัคคุเทศก์อัทยาศัยดีพายอยู่ท้ายเรือ ส่วนปารย์นั่งกลางเอามือราน้ำครับผม


บรรยากาศภูเขาหินปูน ชวนให้มองแล้วผสมจินตนาการเข้าไปให้มองเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ สลับกับต้นไม้เขียวๆผ่อนคลายสบายตา โอยปารย์ แม่ชักเมื่อยแขน


เออ!ถึงทางเขาถ้ำรอดแล้ว ปารย์บอกมืดจังแม่ ถ้ำไม่ลึกมากพายเรือแป๊บเดียวก็ออกมาถึงอีกฝั่ง ได้พักแล้วครับ


ถ้ำนี้ถ้าน้ำขึ้นก็ไม่สามารถพายเรือลอดไปได้ ข้างในมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำในหุบเขา


พักกินข้าวกลางวันที่ท่าเรือ โอะ มีปลาเสือพ่นน้ำด้วยปารย์ ปารย์มัวดูกุ้ง หอย ปู ปลา จนไม่อยากกินข้าวกลางวันเลย หละ



อะต้องวาดรูปเอาไว้สักหน่อยว่าเจอตัวอะไรบ้าง

หลังเพิ่มพลังและพักแขน เราก็ไปพายเรือกันต่อ แล้วเราก็ได้มาเยือนถ้ำผีหัวโต


รูปบนป้ายข้อมูลสถานที่นั่นแหละเจ้าของชื่อถ้ำ


พอมัคคุเทศก์ชี้ให้ดูบนเพดานถ้ำ แม่ถึงกับอึ้งเล็กน้อย ไม่คิดว่ามันจะเห็นชัดเจนขนาดนี้ ก็ในป้ายบอกว่า 3000 ปีมาแล้วนี่นา


ระหว่างทางเดินไปก็มีภาพเขียนสี บนผนังบ้าง บนเพดานบ้าง ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นภาพสัตว์



แต่ปารย์ดูจะสนใจกับการปีนป่่ายมากกว่า

โหเสื้อแม่เขียวกว่าใบไม้ซะอีกอะ

วันที่ สาม ลงทะเลกันจ้า
สองแม่ลูกซื้อทัวร์ทะเลกระบี่ แม่เลือกไปเรือเร็ว แบบทัวร์คนเวลาน้อย แล้วก็มารู้สึกในภายหลังว่าอาจไม่เหมาะกับคนชีวิตเดินช้าอย่าเราสองคน แต่อย่างไรก็ตามทะเลสวยๆ ที่กระบี่ก็ทำให้เราลืมๆเรื่องไม่ชอบใจ มามีความสุขกับภาพสวยๆที่เห็น



เห็นเกาะไก่อยู่ลิบๆ



ผู้คนมากมาย กับทรายขาว ที่อ่าวมาหยา



หลบจากหาดทรายที่ผู้คนมากมาย มาเล่นน้ำดีกว่า แต่เร็วก็จอดกันซะเต็มพื้นที่แคบๆ หน้าอ่าว



ไปหละ หนีไปเกาะอื่นดีกว่า



เอเรือเล็กๆ แบบนี้น่าจะเหมาะกับเรามากกว่าไหมปารย์ ส่วนภาพข้างล่างนี้ถือเป็น Highlight ของเราสองคนแม่ลูกเลย เป็นที่เกาะไผ่ มีปลาสลิดหินบั้งเหลืองมากมาย มากมายจ้า
ปารย์สนุกมากๆ มากๆกับการแหวกว่ายกลางฝูงปลา









วันที่ สี่ ทัวร์ทางบกกันบ้างดีกว่า
จุดหมายแรกน้ำตกร้อน




อุ่นกำลังดี เพิ่งเคยเจอ อยากจะแช่อยู่ทั้งวัน แถมมีอาหารตาเพลินมาก เพลินจนปารย์ลื่นตกชั้นเลยอะ




ต่อมาเป็นสระมรกต สวยสมคำร่ำลือจริงๆ สมชื่อมรกต นึกถึงเรื่องกินรี 7 พี่น้องลงมาเล่นน้ำในสระนี้ โอ๋น่าจะงามแท้ แต่ที่แน่ๆ เด็กๆ สนุกมากมาก






ปิดท้ายทัวร์ที่วัดถ้ำเสือ ปารย์เลยต้องวาดลีลาซะหน่อย



ต้นตะโกใหญ่มากกกก



ตกเย็นเดินไปกินข้าวกัน เห็นเสาไฟแล้วเกิดอาการอยากถ่ายภาพขึ้นมาทันที



หลังอาหารได้มีโอกาสชมการเล่น พารามอเตอร์ ให้ตื่นเต้นเล่น



อยากไปกระบี่อีกจัง

กะปิก็เคยกิน กระบี่ก็เคยไป...1

ขอยืมเอาท่อนนึงของเพลงในงานแสดงสดคุณพระช่วยมาเป็นหัวเรื่องหน่อย ก็มันเข้ากันจริงๆกับเรื่องของปารย์ในช่วงเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แหะๆ แม่ติดค้างข้ามปีเลย แต่ถ้าจะปล่อยให้เรื่องนี้มันเลยผ่านไปหละก็น่าเสียดาย ใช่ไหมปารย์

เริ่มจากการเดินทางที่พิเศษหน่อย พ่อไปทำงานที่กระบี่ แม่กับปารย์ตามไปเที่ยว ปารย์หอบหิ้วเอาฟอสซิลลูกไดโนเสาร์ไปด้วยราวกับสัตว์เลี้ยงมีชีวิต จนพนักงาน Check in ต้องถามว่านั่นอะไรครับ



ในห่อผ้านั่นแหละฟอสซิล(ดินเผา)เจ้าปัญหา


นั่งอ่านสูจิบัตรละครเวทีไดโนเสาร์ที่เพิ่งไปดูมา



ระหว่างเดินสำรวจเส้นทางรอบๆ โรงแรมที่พักก็เจอหลักให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวเท่ๆ อย่างนี้ก็ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย



พ่อไปทำงาน ช่วงเดียวกับกระบี่มีงานใหญ่เพื่อเปิดฤดูท่องเที่ยวพอดี ปารย์กับแม่เลยได้เดินเที่ยวงาน แวะกินของอร่อยจากชุมชนต่างๆทั้งในกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง



ในงานมีการแข่งขันตะกร้อลอดบ่วง ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในกรุงเทพให้ดูด้วยจ้า

Friday, March 12, 2010

พ่อบอกว่า ปารย์นอนร้องไห้


ก่อนวันงาน "ร้อยใจสายใยรัก" ที่สำหรับเด็กอนุบาล 3 แล้วถือว่าเป็นวันจบการศึกษา และได้เวลาที่จะแยกย้ายกันไปเรียนในโรงเรียนใหม่ พ่อเล่าให้แม่ฟังว่า ปารย์ตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนแล้วร้องไห้

พ่อถามว่า...ปารย์เป็นอะไรลูก
ปารย์...ปารย์คิดถึงเพื่อน
พ่อ...พรุ่งนี้ก็เจอเพื่อนนี่ลูก
ปารย์...ก็ปารย์จะไปโรงเรียนใหม่แล้ว ปารย์จะไม่เจอเพื่อนแล้ว
พ่อ...ปารย์คิดถึง ปารย์ก็ไปหาเพื่อนสิ
ปารย์...ปารย์จะไปได้ยังไงหละ
พ่อ...อึ้ง
ปารย์...ร้องไห้ แล้วหลับต่อ

แม่ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า เด็กๆ เขาจะออกอาการแบบนี้ อาจเป็นเพราะเครียดกับการเปลี่ยนแปลง แต่แม่ก็ถือว่าเป็นอีกแบบฝึกหัดหนึ่งของปารย์ ที่จะเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลง

มาดูรูปกันดีกว่า รูปที่เป็นตัวแทนของวันที่ผ่านมาของปารย์ไงครับ


จากซ้าย.. แบงค์ ไข่มุก กิจ ปารย์ และ พีท


ปารย์ นานะ และไข่มุก


ปารย์กับซุ้มลูกโป่่ง ที่ผู้ปกครองอ.3 ร่วมมือกันทำ


ปารย์กับซุ้มผ้า น่ารัก


กับภาพกิจกรรมในวันวาน


ปารย์กับของขวัญแทนคำขอบคุณ ที่แม่กับปารย์ช่วยกันทำเตรียมให้กับคุณครูในวันร้อยใจสายฝยรัก ปารย์ขอให้แม่ซื้อหนังสือวิธีพับผ้าขนหนูให้เป็นสัตว์ต่างๆมามากกว่าปี ได้เวลาใช้งานซะที
ปารย์กระตือรือร้นช่วยแม่ทำมาก แม่มีหน้าที่ม้วน พับ และเย็บ ส่วนปารย์มีหน้าที่วาดตา ตบแต่งให้ผ้าขนหนูดูเหมือนสัตว์มากขึ้น รวมทั้งเลือกสัตว์ชนิดต่างๆให้กับคุณครูแต่ละคน แม่ก็หวังว่าของขวัญนี้จะถูกใจคุณครู น่ารักยามมอบให้ ใช้งานได้เมื่อแกะด้ายออก นะค่ะ

Saturday, March 06, 2010

ปารย์รับปริญญา !!!



...ตั้งใจว่า จะให้แม่เป็นคนเล่า แต่ดูแล้ว ก็ยุ่งพอกัน เอาเป็นแจ้งข่าวสั้น ประกอบภาพไปก่อน

ข่าวเป็น ปารย์เรียนจบ ชั้นสูงสุด ของโรงเรียนอนุบาลปานตะวันแล้ว 4 ปี แรกของการเป็นนักเรียน 4 ปีแรก ที่ต้องทำหน้าที่ เหมือนเด็กไทย คนอื่นๆ (บางคนเค้าไม่เรียนอนุบาล กันนะพ่อ เออเอาเถอะ ดีกว่าให้ TV เลี้ยงอยู่ที่บ้าน)

วันสำเร็จการศึกษา ได้รับเกียติ จากผู้อำนวยการโรงเรียน มามอบใบประกาศนียบัตร (ลองแกไม่มา ก็แปลกแล้ว) และกล่าวอวยพรพร้อมทั้งให้โอวาท บัณฑิตใหม่ "พึ่งกระทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ชาติ บ้านเมือง" (ไม่ใช่!!) จังหวะนั้น ไม่เห็นมีเด็กคนไหน มองแกเลย)เอาเป็น เวอร์ชั่นเต็มรอ แม่ปารย์ ว่างกันแล้วกัน