Thursday, November 30, 2006

กลับบ้านมืด ….. ฉลองวันเกิด

วันครบรอบ 3 ขวบของปารย์ แทนที่แม่กับพ่อจะรีบกลับบ้านเร็ว มาเล่นกับปารย์ แต่ทำไม่ได้เพราะแม่ติดประชุมอยู่ในกลางกรุงเทพ ส่วนพ่อก็เตรียมจัดงานประชุมอยู่กลางกรุงเทพเช่นกัน ปารย์คงอยากถามว่าประชุมคืออะไร ทำไมพ่อกับแม่ต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าประชุมนี่ด้วย แต่ปารย์ก็ยังคงเป็นเด็กที่สงวนคำพูด เสมอ และคงไม่รู้จะทำมืออย่างไรให้แม่เข้าใจคำถาม เลยไม่ถามดีกว่า

แม่ไปแต่เช้าก่อนปารย์ตื่นซะอีก ก็เลยเป็นหน้าที่ของพ่อไปส่งปารย์ที่โรงเรียน ก่อนปารย์ลงจากรถพ่อบอกปารย์ว่า “วันนี้พ่อไปรับช้าหน่อยนะ”

ตอนค่ำแม่กำลังนั่งแท็กซี่กลับบ้านจะรีบไปรับปารย์แทนพ่อที่บ้านเด็ก พ่อติดอยู่แถวสุขุมวิท กว่าจะถึงคงค่ำมาก สักพักมีโทรศัพท์จากโรงเรียนมาถึงแม่ ถามว่าทำไมคุณแม่ยังไม่มารับปารย์อีก โห โห โห แม่ใจหายแวบ ก็แม่ให้ปารย์นั่งรถโรงเรียนกลับไปที่บ้านเด็กทุกวัน แล้วทำไมวันนี้ปารย์ยังค้างเติ่งอยู่ที่โรงเรียนอีกหละ

คุณครูบอกว่าครูที่ไปรับปารย์ที่รถตอนเช้าทราบจากพ่อว่าวันนี้จะมารับเอง(เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดปารย์) สุดท้ายแม่ถึงได้เข้าใจว่าที่พ่อพูดกับปารย์ว่าตอนเย็นจะมารับช้าหนะ (รับที่บ้านเด็ก) คุณครูเข้าใจว่าพ่อพูดกับครู และคงเห็นว่าเป็นวันเกิดปารย์ อาจจะมารับเองไปฉลองกัน แป่ว......

แม่หนะ...เป็นห่วงกลัวปารย์จะหิว กลัวจะใจเสียที่เหลืออยู่คนเดียวที่โรงเรียนกับครู มืดแล้วด้วย แต่ปารย์เข้มแข็งกว่าที่แม่คาดนัก แม่ไปถึงเห็นปารย์กำลังนั่งกินข้าวกับครูเย็น หน้าจ๋อยๆ เล็กน้อยแต่ไม่ร้องไห้ คนที่เกือบร้องไห้กลับเป็นแม่ไป

Sunday, November 26, 2006

3 ขวบ แล้วครับ

และแล้วปารย์ก็ครบรอบ 3 ขวบ เวลาผ่านไปเร็วจังแม่ยังรู้สึกเหมือนปารย์เพิ่งคลอดมาได้ไม่นานนี่เอง

และแม้จะ 3 ขวบแล้วลูกปารย์ของแม่ก็ยังหวงคำพูดอยู่เหมือนเดิม ไม่ใช่พูดไม่ได้นะ แต่ยังนิยมบริหารนิ้ว และท่าทางเมื่ออยากได้อะไรเหมือนเดิม หลายคนบอกว่าไว้อีกหน่อยเถอะจะพูด จะถามจนขี้เกียจตอบ พ่อกับแม่หนะอยากตอบจะแย่อยู่แล้ว แต่อะนะก็พ่อกับแม่ต่างก็เป็นคนพูดน้อย แล้วจะให้ลูกพูดเก่งไปได้อย่างไร

.................ปารย์ พี่กานต์ และพี่นาม....................


ก่อนวันเกิดปารย์ 1 วัน เราจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่บ้านยายกัน โดยรวมเลี้ยงทั้งวันเกิดปารย์ และวันเกิดน้าปุ๊ก แต่สงสัยว่าน้าปุ๊กจะขี้เกียจเป่าเทียนจำนวนมากให้เหนื่อยเปล่าๆ งานนี้เลยมีปารย์เป็นพระเอกคนเดียว


เริ่มจากเค้กชอคบอล ฝีมือน้าปุ๋ยปรุง ฝีมือแม่ปั้น แม่ว่ารสชาติของเค้กก็ใช้ได้อยู่แหละนะ แต่ฝีมือปั้นของแม่ที่สู้อุตส่าห์ซ้อมมือกับดินน้ำมันมาหลายรอบ แต่พอเป็นชอคบอล เจ้าไทรันโนซอรัสกลับออกมาหน้าตา ท่าทางชอบกล ยังดีนะที่ปารย์ช่วยแม่เต็มที่ เห็นแม่ยกมาปุ๊บ ก็บอกเลยว่าเป็นไดโนเสาร์ เออ!!! รอดตัวไปอย่างน้อยเจ้าของวันเกิดผู้หลงไหลไดโนเสาร์ก็ยังบอกว่าเป็นไดโนเสาร์ก็ใช้ได้แล้วแหละนะ

แม่เองก็ยังไม่แน่ใจนักหรอกว่า ปารย์จะเข้าใจไหมว่าวันเกิดคืออะไร ขนาดเขาร้องเพลง Happy Birthday กันอยู่ปารย์ยังลุกออกไปเต้นซะฉิบ เรียกเสียงฮาจากผู้ชมหรือลูก อย่างไรก็ตามงานนี้ก็ทำให้คนทั้งบ้านมีความสุขโดยทั่วกัน ทุกวัย แค่นี้ก็ถือว่างานสำเร็จแล้วใช่ไหมลูก

Saturday, November 25, 2006

เที่ยวงานละครกรุงเทพ

ก็ปารย์เป็นชาวกรุงนี่นะ กรุงเทพจัดงานอะไรแม่ก็พยายามพาไปร่วมแจม โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องเสียตังก์อย่างนี้ แม่ชอบ.... งานจัดที่สวนสันติชัยปราการ เราชวน ตายง ยายอร และน้าๆ ไปด้วย เราไปกันช้าไปหน่อยเลยได้ดูไม่กี่เรื่อง แต่ก็พอเรียกน้ำย่อยได้อะนะ ละครไบ้คนหน้าขาว ละครเพลงเรื่องลิงกำถั่ว และตบท้ายที่ลิเกที่พระเอกตาหวานซะน้ำตาลเรียกพี่
งานนี้ทุกคนลงความเห็นว่าจะไม่พูดเรื่องมีลิเกให้ยายฟังเด็ดขาด ไม่งั้นคงบ่นไปอีกนานว่าไม่ชวนเลย


....................คุณน้องหน้าขาว น้องปารย์หน้าเจื่อน........................


......................ละครเพลงสอนธรรม เรื่องลิงกำถั่ว........................


............................ลิเกตาหวาน................................

Wednesday, November 22, 2006

เตรียมความพร้อมวันครบรอบ 3 ขวบ


*************************ปารย์กับน้าปุ๋ย ********************************

ช่วงนี้พ่อ แม่ น้าๆ และยายของปารย์ เตรียมคิด เตรียมหาของขวัญวันเกิดที่ถูกใจปารย์และราคาสบายกระเป๋ากันใหญ่ พ่อ+แม่ พยายามหาเป้ไดโนเสาร์มาหลายห้าง พยายามไปเดินดูทั้งที่ปกติไม่ค่อยอยากเดินเท่าไร มันเมื่อยและมันก่อกิเลสให้กับคนเงินเดือนไม่ค่อยเหลือมากเกินไป แต่จนบัดนี้แม่ยังไม่สามารถหาให้ได้เลย สงสัยต้องเปลี่ยนเป้าหมาย

ส่วนน้าปุ๋ยก็เตรียมทำ ช๊อคบอลรูปไดโนเสาร์ แทนเค้กที่สั่งจากร้านดัง (น้าปุ๋ยบอกแพงเกินไป ทำเองอร่อยและสนุกกว่า) แม่เองชักตื่นเต้นแล้วสิ ไม่รู้ว่าปารย์จะเข้าใจหรือยังว่าวันที่ 27 พ.ย.นี้ เป็นวันอะไร.....



****************************ปารย์กับน้าเอ๋**********************************

Saturday, November 11, 2006

ปารย์จะเป็นตากล้อง!!


เห็นพ่อกับแม่ถ่ายรูปปารย์อยู่บ่อยๆ แล้วมักจะเอามาให้ปารย์ดูอยู่เสมอเลย ปารย์เองก็อยากลองเป็นตากล้อง ถ่ายรูปดูบ้าง ปารย์ขอให้พ่อกับแม่เป็นนางนายแบบให้ แต่ปารย์ก็อยากมี ไดโนเสาร์เป็น ฉากหน้า (เป็นฉากหลัง เดี๋ยวพ่อจะบังหมด) พ่อยิ้มหน่อย หนึ่ง สอง สั๊ม!! สวยมาก

กิจกรรมยามเย็น!


ปรกติเย็นๆ หลังจากกลับจากบ้านป้าอิม ปารย์มักมีกิจกรรม ทำอะไรกับแม่อยู่เสมอๆ เช่นทำกับข้าวกัน ถูบ้าน กลิ้งไปกลิ้งมา หรือพับนก เต่า ปลาฉลาม ตลอดจน ซ่อมบ้านกระดาษของปารย์

แต่ก็มีกิจกรรมที่ปารย์ชอบ มักรบเร้าให้ปารย์ช่วยทำให้อยู่เสมอ ก็คือปั้นบรรดาไดโนเสาร์ แม่มักมีจินตนาการในการปั้นดินน้ำมันได้เก่งมาก จนปารย์อดใจไม่ได้ ขอให้ปั้นโน้น ปั้นนี้ ซึ่งแม่ก็ไม่ค่อยได้ขัดใจสักเท่าไร

Friday, November 10, 2006

ก่อนนอนเมื่อคืน

ก่อนนอนเมื่อคืน แม่สวดมนต์ตามปกติ ปารย์ก็มานั่งบนหมอนให้แม่กราบตามปรกติ หลังจากนั้นก็น่าจะได้นอนกันตามปกติ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก

ปารย์เอาไดโนเสาร์ดินน้ำมัน มาหว่านซะเต็มที่นอน แม่เลยต้องเก็บ และเก็บ ขณะเก็บอยู่ก็มีอะไรแข็งๆ ลอยมาโดนหัวแม่ โห...เจ็บจริงๆ เนี่ยสงสัยหัวโนด้วย หันไปดูถึงได้รู้ว่าเป็นนกไม้ที่แม่ทำเสียบไม้ไว้ปักแจกัน ตัวมันใหญ่ขนาดเท่านกหงส์หยกแหละ ปารย์คงเอามาแก่วงเล่น และคงแก่วงแรงไปหน่อยเจ้านกเลยหลุดออกมาจากด้ามไม้มาโดนหัวแม่

เจ็บจนเอามือกุมหัวไว้ เห็นปารย์หน้าเจื่อน เดินมาดูหัวแม่ แล้วยกมือขึ้นไหว้ พรางพูดว่า “ขอโทษครับ” ได้ยิน และเห็นอย่างนี้แม่ไม่จะไปโกรธปารย์ได้ไง.... ดีใจด้วยซ้ำที่ปารย์รู้จักขอโทษ ใครก็เคยทำผิด แต่ถ้าทำผิด แล้วรู้จักรับผิด และรู้จักขอโทษ บรรยากาศหนักๆ มันก็เบาลงได้นะลูก

ไม่เท่านั้น พอเห็นแม่ไม่โกรธ ปารย์ยังทำหน้าทำตาทะเล้น พยายามล้อเล่นให้แม่ขำ แม่ขำไม่ออกอยู่นาน ก็มันเจ็บอะปารย์.....

Wednesday, November 08, 2006

เด็กแนว "ไหนเนี่ย"



ควันหลงงานบวช


น้าเอ๋ส่งรูปปารย์มาให้แม่ มีรูปปารย์ไปร่วมงานบวชของน้าพงษ์ ตอนแม่ไม่อยู่ด้วย ช่วยงานแข็งขันเชียวนะคุณลูก


Friday, November 03, 2006

มีแววพ่อครัว

เมื่อวานซืน แม่ทำผัดพริกเผาถั่วพูเป็นอาหารเย็น แม่ถือว่าเป็นมื้อที่พิเศษมาก เพราะมีผู้ช่วยมือขยันมาช่วยแม่หั่นถั่วพูด้วย จะมีใครที่ไหนก็ลูกปารย์นั่นเอง เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เห็นท่าทางทะมัดทะแมงแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ถ้าชิ้นไหนหั่นออกมาแล้วใหญ่ไปก็พยายามหั่นใหม่ให้เป็นชิ้นเล็กๆให้ได้ ปากก็พูดว่า “ชิ้นเล็ก ชิ้นเล็ก”

อันที่จริงปารย์ก็ช่วยแม่ทำกับข้าวมาหลายมื้อแล้วแหละ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานเด็ดผัก นี่เป็นงานแรกที่ปารย์ได้ใช้มีดจริงๆหั่นผักจริงๆ ท่าทางดีใจมากที่ได้ทำ วางทุกอย่างทั้งยาคูลย์ และของเล่นที่ถืออยู่มานั่งถือมีดหั่นถั่วพูกับแม่ในครัว