Monday, December 25, 2006

ไทยแลนดดดดด์ ปู๊ดปู๊ด

เพื่อเป็นการฉลองเนื่องในวโรกาส ครบ 60 ปีครองราช ของในหลวง พ่อเลยพาปารย์ ไปสานฝัน เชียรทีมชาติไทย ในสนามศุภชาสัย (เขียนยังไง) อ๊า!!! เกี่ยวกันไหม๊ครับ คือหลายคนบอกว่า พ่อมันอยากไปดูเลยอ้างปารย์เอา แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม วันที่ 24 ธันวาคม 2549 ก็ถือเ้ป็นวันแรกที่ปารย์ และพ่อ เข้าไปเชียรทีมชาติไทย ด้วยกัน "ไทยแลนดดดดดด สู้สู้" ปารย์บอกพ่อว่า เอาปู๊ดๆ ด้วย เลยต้องเสียตังค์ ค่า ปู๊ดๆ อีกอย่าง แต่เหมือนเดิม เอาปากจ่อรู แล้วเปล่งเสียงเอาเอง ปู๊ดๆ (เมื่อไรจะรู้ว่าเค้าเป่าลมกันนะ พ่อโง่เองสอนไม่ได้เรื่อง) สิ่งที่เร้าอารมณ์ปารย์มากที่สุดน่าจะเป็นบรรดากองเชียร ที่อยู่ด้านหลัง มีทั้งกลองใหญ่ กลองเล็ก ปารย์โยกตัวตามจังหวะ โดยไม่สนใจว่า ทีมบอล VIP กับหนุ่มๆ จาก RS จะวิ่งไล่ฟุตบอลกันอย่างไร กว่าทีมชาติไทยจะเริ่มเตะ ปารย์ก็เริ่มหมดแรงเพราะ กลางวันก็ไม่ได้นอน แถมยังต้องโยกตัวตามจังหวะกลองอีก หลับ ครับ ปารย์หลับท่ามกลางเสียงเพลงเชียร กลองระทึกคึกโครม

กว่าจะตื่นได้เพราะไทยตีเสมอเวียดนามเป็น 1-1 กองเชียรยิ่งมัน ปารย์งัวเงีย ได้ซักพัก โยกตัวตามจังหวะเพลงเชียร ต่อ พ่อชวนให้กินนม กินขนมก็ไม่เอา จนหมดครึ่งแรก พ่อชวนปารย์กลับบ้าน "กลับบ้านเหรอ" ปารย์ถามพ่อตามความคุนเคย "อุ้ม พ่ออุ้ม" เราขับรถกลับบ้านกัน ขณะฟังการรายงานสด ฟุตบอลทางวิทยุ เมื่อไรที่มีคนตะโกนแทรกเข้ามา "ไทยแลนดดดดดด" ปู๊ดๆ ปารย์ก็จะทำท่าเป่า แต่เปล่า เสียงตัวเองครับ อย่างไรเสีย นัดแรกที่ปารย์เชียรทีมชาติไทย เป็นนัดที่ทีมชาติไทยชนะครับ

คราวหน้าพ่อชวนไปอีกนะ ไทยแลนดดดดด์ ปู๊ดๆ

Thursday, December 07, 2006

ไม่ click...

จากเด็กที่เดินได้เร็ว แต่พูดได้ช้า แม่เลยเข้าใจเอาเองว่าปารย์น่าจะเป็นเด็กประเภทที่พัฒนาการทางกายดี (อะไรที่ใช้แรงจะทำได้ดี 555) แต่ทฤษฎีของแม่ไม่ถูกซะละ ไม่รู้แม่ไปพลาดตอนไหน ทำให้จนป่านนี้ปารย์ยังถีบรถสามล้อ หรือรถสี่ล้อไม่เป็น พ่อกับยายบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็เป็นเอง แล้วก็เดี๋ยวเป็นเองกันมาหลายปี (มากกว่า 1ปีก็ถือว่าหลายแล้วเนอะ) ทั้งรถสามล้อ และรถสี่ล้อยังเป็นของเล่นที่ปารย์ลากไปไหนมาไหน แทนที่จะถีบไปไหนมาไหน

เวลาเท้าอยู่บนแป้นถีบปารย์ก็จะออกแรงขาสองข้างพร้อมกัน อาจด้วยแรงเท่ากัน ฉะนั้นรถจึงอยู่นิ่งๆ เหมือนปารย์เล่นกายกรรมผาดโผนบนรถมากกว่ากำลังจะถีบรถ แม่ก็ทั้งจับเท้าให้ออกแรงสลับข้าง ทั้งเข็น ทั้งลาก ปารย์สนุกแต่แม่เหนื่อย เหมือนปารย์ยังไม่clickกับการถีบ

เมื่อวานนี้ทั้งพี่พันซ์ พี่แพท พี่ตั๊ก และพี่ไผ่ มาช่วยกันหัดถีบรถให้ปารย์กันใหญ่ ทั้งเข็น ทั้งเอาจักรยานตัวเองมาถีบให้ดู “ปารย์ๆ ต้องทำอย่างนี้ อย่างนี้” เห็นแล้วก็น่ารักดี เป็นความอาทรของเด็กๆเพื่อนร่วมซอย แต่ปารย์ก็ยังไม่click ไม่เป็นไรนะลูก วันนี้ไม่เป็น สักวันปารย์ก็ถีบเองแหละนะ แม่จะพยายามต่อไป

เห็นปารย์หัดถีบจักรยานแล้วก็นึกถึงตัวเองตอนหัดดำน้ำ (ผิวน้ำ) แม่จำได้ว่าแม่เป็นคนสุดท้ายในกลุ่มที่ไล่น้ำออกจากท่อ Snorkel ตอนขึ้นมาที่ผิวน้ำได้ เพื่อนๆพยายามมาบอกมาสอนให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ แต่แม่ก็ทำไม่ได้ สำลักน้ำก็หลายรอบ ก็ได้แต่ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งแม่ก็ click แล้วก็ทำได้ ปารย์อาจเหมือนแม่ตรงนี้ที่เรียนรู้ช้า แต่มันต้องตื้อ ไปเรื่อยๆลูก เดี๋ยวก็เป็นเองอย่างที่พ่อกับยายบอกนั่นแหละ

Wednesday, December 06, 2006

วังตะไคร้

เดือนธันวานี่ เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง และท่องเที่ยวจริงๆ แม่กับปารย์มีโปรแกรมเที่ยวยาวเหยียด วันที่ 5 ธันวา เราสองคนแม่ลูกกระเตงกันไปเที่ยววังตะไคร้กับดรีมทีมเพื่อนแม่ (อีกแล้วครับท่าน) นี่ขนาดพ่อไม่อยู่ แม่เองก็ไม่มีปัญญาขับรถพาปารย์ไปไกลๆ เราสองคนก็ยังตะกายนั่งแทกซี่กันไป อาศัยรถเพื่อนไปเที่ยว อิ อิ งานนี้แม่ถือว่าเป็นการกระจายรายได้ที่น้อยนิดของเราไปสู่แห่งท่องเที่ยวในประเทศเพื่อพ่อ ไม่ได้เลยเราต้องเกาะกระแสทำเพื่อพ่อเอาไว้ด้วยนะปารย์

เราออกจากบ้านกันแต่เช้า หวังประหยัดมื้อเช้าโดยไปกินที่บ้านน้าเปิ้ล น้าแจ๊ค แล้วเราก็ไม่ผิดหวังจริงๆ น้าเปิ้ลทำกับข้าวไว้รอท่าอยู่แล้ว ดีจัง อร่อยด้วย

งานนี้พิเศษกว่าการเที่ยวครั้งอื่นเลยนะ เพราะเป็นการรวมคน 3 วัยไปในทัวร์เดียวกันทีเดียว มีทั้งเด็กอย่างเจ้าปิ๊งปิ๊ง ปารย์ ขนุน กัน และแพร วัยกลางๆ (ไม่อยากบอกว่ากลางคนเลย มันสะดุ้งยังไงไม่รุ) อย่างแม่ อาเจี้ยง โย่ง แจ็ค เปิ้ล น้องเขยโย่ง น้องสาวเปิ้ล แล้วปิดท้ายด้วยวัยมากประสบการณ์อย่าง พ่อ กับแม่ของโย่ง และแม่ของเปิ้ล เสียดายนะปารย์ที่แม่ไม่ได้พายายของปารย์ไปด้วย ไม่งั้นก็ครบทีมแม่ๆเลย

เราเริ่มต้นกันที่โรงเรียนนายร้อยจปร. เข้าไปชมวิวกันก่อน พอไปถึงน้ำตก โฮ๊ะๆๆ จะเป็นลม ยังกะตลาดนัดแหนะการเที่ยวน้ำตกวันหยุดนี่มันต้องทำใจจริงๆ ทำเป็นว่าเรามองไม่เห็นใครๆไปซะจะได้ไม่เครียด คนเยอะซะ แทบไม่มีที่ว่าง ฝ่ายสำรวจเราเลือกปูเสื่อใต้ต้นไม้ริมน้ำตกแล้วจึงไปสั่งอาหารยอดฮิตมาโซ้ย ก่อนลงน้ำ เด็กๆกินได้บ้างแต่ไม่มาก ทุกคนตื่นเต้นกับการจะได้เล่นน้ำตก และแย่งขนมกัน

ปารย์สนุกมากจนไม่อยากขึ้นจากน้ำเลยหละ อันที่จริงสนุกที่ได้เล่นน้ำอาจไม่เท่าไร แต่ดูปารย์จะสนุกกับการเล่นอุปกรณ์เสริมของน้องหนุนมาก แหม!!! น้องหนุนมีของชอบของปารย์ทั้งนั้น ทั้งปลอกแขนไดโนเสาร์ และปลาโลมาตัวโต น้องหนุนไม่ยอมลงเล่นน้ำ พี่ปารย์เลยรับอุปกรณ์มาเล่นหมด เสียดายแม่มัวแต่จับปารย์จนไม่ได้ถ่ายรูปตอนเล่นน้ำมา


.........................น้าโย่งกำลังจับปูใส่กระด้งถ่ายรูป......................

เด็กเอ๋ย เด็กดี...

งานวันพ่อ ครั้งแรกของปารย์ พ่อเสียดายมากที่ไปไม่ได้ ปารย์คงเข้าใจแหละ ก็พ่อต้องไปทำงานตั้งภูเก็ตอะครับจะแว้บกลับมาได้ไง

บรรยากาศก็วุ่นๆ แบบโรงเรียนอนุบาลแหละนะ เริ่มจากเข้าแถวเคารพธงชาติ กายบริหาร ร้องเพลง เดินแถวรถไฟกลับไปดื่มนม + ปัสาวะ ที่ห้องเรียน จากนั้นเด็กๆก็มาพร้อมกันที่ลานกิจกรรม

.............................บรรยากาศการเข้าแถว........................

กิจกรรมวันพ่อเริ่มต้น โดยให้เด็กอนุบาล 3 คนหนึ่งกล่าววัตถุประสงค์ของงาน ตัวแทนคุณพ่อของทุกระดับชั้น กล่าวความในใจ เด็กน้อยอนุบาล 3 กล่าวอาเศียรวาท เด็กๆเดี๋ยวนี้เก่งจัง ขึ้นไปยืนพูดบนเวทีได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่มีตื่นเต้น จากนั้นก็ตัวแทนนักเรียนรำถวายพระพร และกล่าวถึงการปฏิบัติตนของในหลวงต่อสมเด็จย่า เชิญตัวแทนคุณพ่อของแต่ละระดับชั้นขึ้นรับของจากกิจกรรม project approach ของเด็กๆ แล้วก็มีกิจกรรมมอบรางวัลเด็กดีจากแต่ละระดับชั้น อิ อิ กิจกรรมนี้เล่นเอาแม่ยิ้มแก้มแทบปริ ที่เห็นปารย์ขึ้นไปรับรางวัลกับเขาด้วย

..........................ขึ้นเวทีรับรางวัล...............................

อันนี้ไม่รู้ตัวมาก่อนนะค่ะ ก็ปารย์ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรที่โรงเรียนให้แม่ฟังเลย พอครูประกาศว่าต่อไปจะเป็นการมอบรางวัลเด็กดี แม่ก็เห็นครูณี มาจูงน้องปารย์ออกไปเข้าแถวข้างเวที แม่ก็เลยรีบแจ้นออกไปเตรียมถ่ายรูป แต่อะนะฝีมือไม่ดี แม่เลยได้รูปน้องปารย์บนเวทีที่ไม่ค่อยจะดูดีเท่าไรมาให้ดูกัน

แม่มารู้ภายหลังว่าที่ปารย์ได้รางวัลนี้ก็เพราะในสมุดบันทึกความดีที่คุณครูจะส่งมาให้ดู และเขียนทุกวันศุกร์หนะ ปารย์มีจำนวนของความดีที่ทำมากที่สุดในเด็กๆปอเตรียมด้วยกัน ความดีของเด็กชายปารย์ที่คุณครูเขียนมาก็เช่น ดื่มนมหกแล้วเอาผ้ามาเช็ด เอากล่องนมทั้งของเพื่อนและของตัวเองไปทิ้งถังขยะ ช่วยครูปูที่นอน ส่วนที่แม่กับพ่อเขียนไป ก็เช่นหยอดกระปุก แบ่งขนมให้พ่อกิน ช่วยแม่หั่นผัก ช่วยแม่ขัดห้องน้ำ


........................กับรางวัลเด็กดี..................................

ตอนท้ายของงานเป็นให้เด็กทุกห้องมอบของที่ระลึกวันพ่อ กับคุณพ่อ แม่เลยเป็นตัวแทนขึ้นเวที รับจากปารย์แทน ของที่ระลึกเป็นหัวใจเข็มกลัดทำมือ กับขวดมะขามแก้ว หัวใจนี่แม่เก็บไว้ให้พ่อแล้ว แต่มะขามแก้วปารย์จัดการเรียบร้อย เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าลูกกินมะขามเป็น

........................โครงการมะขามแก้ว ของห้องสับปะรด...................