Sunday, August 23, 2009

นักเล่านิทาน

23 สิงหาคม 2552 อีกวันที่ก้าวเล็กๆ ของเจ้าปารย์ ก้าวออกไปจากบ้าน และโรงเรียน แม้จะรู้ว่าคุณครูที่โรงเรียนปานตะวันทุกท่าน ต่างช่วยกันซักซ้อมเจ้าปารย์มาอย่างดี แต่แม่ก็อดลุ้นไม่ได้ว่า เจ้าปารย์จะยอมเล่าไหมนะ แล้วปารย์ก็ทำให้แม่ภูมิใจ

ก่อนเริ่มงานคณะกรรมการบอกว่า ที่มาของการจัดงานประกวดเล่านิทานนี้มาจากความพยายามในการรณรงค์ให้เด็กรักการอ่าน และการเล่านิทานนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการฟังและอ่านนิทานของเด็กๆ สะสมมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็สามารถเล่าออกมาได้ ชนะหรือไม่ชนะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ การได้มีโอกาสเล่านิทานต่อหน้าผู้คนสำคัญกว่า ซึ่งในเรื่องนี้แม่ก็เห็นด้วยเช่นกันจ้า

นอกเหนือจากความยินดีปรีดาที่เห็นลูกกล้าแสดงออกต่อหน้าคนมากมาย แม่ยังภูมิใจกับความมีสมาธิ และความพยายามในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเองของลูกด้วย เออ อันเนื่องมาจากนิทานเรื่องคุณยายกายสิทธิ์์ ที่น้องปารย์เล่า นั้นต้องมีการดัดแปลงของเหลือใช้มาทำเป็นของเล่น พอถึงตอนทำกล่องนมให้มาเป็นรถไฟ เชือกดึงรถไฟดันไปพันกับล้อรถไฟ แม่และคุณครูต่างก็ลุ้นว่าปารย์จะทำอย่างไร แล้วปารย์ก็พยายามแกะเชือกด้วยตัวเอง พอเห็นว่าไม่ได้แล้วก็เอาลงลงกับพื้นดันไปแทนลาก โดยไม่เสียสมาธิ ไม่เรียกแม่หรือครูให้ช่วย อะนะเห็นอย่างนี้แล้วก็รู้สึกได้เลยว่าเจ้าปารย์ของแม่โตขึ้นไปอีกก้าวแล้วจ้า


บรรยากาศเป็นกันเองของลานเล่านิทานที่ TK PARK


เล่่านิทานประกอบอุปกรณ์ที่เจ้าปารย์กับแม่ช่วยกันทำ


นิทานจบแล้วครับ ขอบคุณครับ


เด็กๆ ทุกคนได้รับประกาศนียบัตรการเข้าร่วมกิจกรรมกันทุกคน อันนี้แม่ชอบค่ะ เด็กๆทุกคนต่างอยากได้รับอะไรสักอย่างกลับบ้าน เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับการยอมรับ


เจ้าปารย์ถ่ายรูปร่วมกับกรรมการคุณพรอนงค์ นิยมค้า และคุณทิพย์สุดา และเพื่อนๆ น้องข้าวกล้อง กับน้องเต็ม

งานนี้นอกจากแม่ กับพ่อจะไปเชียร์เจ้าปารย์แล้ว ยาย น้าเอ๋ และน้าตั๊ก ก็ตามไปเชียร์ด้วย แถมขากลับปารย์ได้กล่องดินสอจากยาย ได้สีพร้อมนาฬิกานกแก้วที่อยากได้มานานจากน้าเอ๋ และน้าตั๊ก เป็นของขวัญสำหรับเด็กกล้าแสดงออก งานนี้เจ้าปารย์เลยยิ้มหน้าบาน

แล้วแม่ก็ต้องขอบคุณครูของปารย์ทุกคน โดยเฉพาะครูซัง กะครูวัน ที่ช่วยกันเปิดโอกาสให้ปารย์ได้ซ้อมเล่านิทานอย่างสม่ำเสมอนะจ๊ะ

Thursday, August 13, 2009

Earth explorer



.....เข้าพรรษาปีนี้ แม่จัดทัวร์ ไปทำใจสงบ ๆ กันที่ไร่กัญญารัตน์ ชัยภูมิ เข้าพรรษา!!! ไร่กัญญารัตน์!!! เกี่ยวกันไหม๊ แม่บอก ก็อยากไป ไม่ไปก็ได้นะ (มีคนบอกผมว่า อย่าตีความ ความหมายของประโยค มากกว่าน้ำเสียง โดยเฉพาะ เสียงลงท้าย ของคนที่เรารัก อันนี้ยืนยัน) ไปครับผม!!! พร้อมครับ ปารย์ถามแม่ว่า ไปทำไหม๊ คำตอบคือดูดอกกระเจียว (หวังว่าพิมพ์ถูก มีคนแจ้ง พิมพ์ถูกคำ แต่ไม่ถูกเรื่อง แก้แล้วครับ)



เออ ขอรูปดอกกระเจียวครับ



โอเคเยี่ยม สถานที่ที่ แม่วางแผนไว้ คือ อุทยานป่าหินงาม อ.เทพสถิตย์ ชัยภูมิ เออไม่เคยไป ไปยังไง แม่ปารย์ ตอบว่า ไม่รู้ ขับรถไป ครับ เรารับคำ ด้วยกิริยา แข็งขัน



ระหว่างทางไป ก็แวะ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซื้อเสื้อ กับร่มหน่อย แดดมันร้อน ขับไปถึง ก็เข้าที่พัก พร้อมกับดูท่า ขอพักก่อนดีไหม๊ เพราะรถติดก่อนเข้าอุทยาน สัก 2 กิโลเมตร เห็นจะได้ ใกล้เย็นลองไปดูใหม่ คนครับคน มากมายจริงๆ ขนาดอุทยานไม่ให้เอารถเข้า พร้อมจัดรถพ่วง มาบริการ แล้ว ก็ยังไม่พอ นึกว่าเค้าเอาหมีแพนด้ามาไว้ที่นี่ ซะอีก



วันแรกเราใช้วิธี เดินเล่นกันก็แล้วกันน๊อะ



เดินเล่น เหรอพ่อ เดินเล่น ยังไง!!!! ปารย์เหนื่อย ถึงแล้ว ถึงแล้ว ถึงไหนล่ะพ่อ


ปารย์จะเป็นดอกทานตะวัน


หั๊ย เค้ามาดูดอกกระเจียวกัน

นั่งรถกลับกันนะพ่อ สนุกดีอ๊อก


ดูปลาอะไรกันเหรอ




เช้าอีกวัน แม่ปารย์ ชวนไปเที่ยวน้ำตกเทพพนา ไม่ไหว คนเยอะ กลัวดอกกระเจียว เฉา เพราะคนจ้องจริงๆ เลย


ปารย์ได้ใช้บริการเชิงรุกของไปรษณีย์ไทยด้วย ออกนอกระบบราชการหน่อย ทำดีขึ้นเยอะเชียวนะ



เออคนน้อยดีแหะ แม่ปารย์เตรียมชุดเก่ง ไว้ให้ปารย์ด้วย มันว่ายได้เหรอพ่อ น้ำนี้



ไม่รู้ซิ แต่พ่อว่ายได้ ไปกลับกันได้แล้ว เดี๋ยวรถติดขาเข้ากรุงเทพ เอาไว้ปารย์ไปวางแผนกับแม่ว่า คราวหน้าไปไหนต่อดี



ก็ได้ ก็ได้ (ดีหน่อยไม่ใช่ แม่ปารย์พูด ความหมายจะเป็นอย่างอื่นทันที) ทริปนี้ กินปลาเผา กันซะ ตัวดำทั้งบ้านเลย!!!