Thursday, December 30, 2010

เกี่ยวข้าว ที่ไร่ดินดีใจ

สี่เดือนผ่านไป ข้าวในนาของน้องขิงที่ปารย์ได้มีโอกาสไปโยนไว้ก็เติบโต ตกรวง โค้งเอน พร้อมเก็บเกี่ยว 27 พ.ย.แม่กับปารย์ก็อาศัยรถของน้าน้ำไปที่ไร่ดินดีใจด้วยความตื่นเต้น ก็นี่เป็นครั้งแรกทั้งของแม่และปารย์ที่จะได้มีโอกาสเกี่ยวข้าวนะ คราวนี้ไร่ดินดีใจจัดเป็นค่ายเกี่ยวข้าว มีเด็กๆที่ครอบครัวทำ Home school ปารย์เลยได้มีโอกาสเจอเพื่อนใหม่มากมาย ดีจัง


คุณกำพลสาธิตการเกี่ยวข้าว บนแปลงที่ปารย์ได้เคยไปโยนกล้าไว้ เราจะได้เกี่ยวข้าวในแปลงนี้แหละ



ตอนเห็นปารย์จับเคียว ความกังวลมันมากมาย กลัวปารย์พลาดเอาเคียวเกี่ยวพุงตัวเอง แต่คุณยายชาวนามืออาชีพก็พยายามสอนว่าต้องหันเคียวอย่างนี้นะ อย่างนี้นะ แล้วปารย์ก็ทำได้ อย่างที่เห็น ไม่น่าเชื่อว่าเหล่าชาวนามือสมัครเล่นก็สามารถเกี่ยวข้าวได้จนหมดแปลง งานนี้ไม่มีทำเล่น ทำจริงเสร็จจริง ก็ถ้าไม่เสร็จเจ้าของนาไม่ให้กินข้าวเย็นอะ

ข้าวเกี่ยวแล้วรอมัดรวมกัน

หมดแปลงแล้วจ้า

วันที่ 28 พ.ย.

เริ่มต้นงานด้วยการเตรียมเชือกมัดที่น่าจะทำจากต้นกกสองกำเล็กๆ มาต่อกัน มีชื่อเรียกว่าเท่ๆว่าคะแนก แม่แอบคิดว่าคำนี้มีความสัมพันธ์กับ connect ในภาษาอังกฤษหรือเปล่านะ


แล้วก็ถึงเวลาสาธิตการมัด และแบกฟ่อนข้าว
หลังการสาธิตสมาชิกก็แยกย้ายกันไปมัดฟ่อนข้าว และแบกไปใส่รถของน้องขิงเพื่อลำเลียงไปลานนวดข้าว

อ้าวช่วยกันลำเลียงไปไว้บนลานนวดข้าวที่เอามุ้งฟ้าปูรองไว้เรียบร้อยแล้ว



โอกาสดีอีกอย่างของปารย์คือ ไปเกี่ยวข้าวครั้งนี้มีคุณครูมืออาชีพจากโรงเรียนแสนสนุกไตรทักษะไปด้วย หลังจากแม่นกของน้องขิงนำขอขมาข้าวที่เราต้องเหยียบย้ำขณะฟาดข้าวให้ออกจากรวงแล้ว คุณครูนำเด็กๆ และพ่อแม่ทำกิจกรรมวงกลมที่อธิบายขั้นตอนในการทำนาตั้งแต่ต้นจนจบผ่านบทเพลง และท่าทาง เป็นวิธีการสอนที่น่าสนใจจริงๆ



ปารย์และเด็กๆทุกคนสังเกตุการณ์วิธีนวดข้าวอยู่สักพักก็เริ่มต้น นวดข้าวเองอย่างขมีขมัน


เมื่อเวลาผ่านไป ความสนใจเด็กๆเริ่มเปลี่ยนจากการนวดข้าวมาเป็นกระโดด โลดเต้น



ส่วนบรรดาแม่ๆก็มีกิจกรรมทำตุ๊กตาจากฟางข้าว แน่นอนบทบาทการนวดข้าวในตอนท้ายๆก่อนอาหารกลางวันก็ต้องตกเป็นของพ่อๆทั้งหลายอย่างไม่มีทางเลี่ยง ไม่เสร็จไม่ได้กินข้าวกลางวันนะค่ะ
หลังอาหารพวกเราได้มีโอกาสสีข้าวที่เราเกี่ยว แล้วได้ข้าวที่เราเกี่ยวกลับบ้านไปหุงกินครอบครัวละ 1 กก. กว่าแม่จะได้เล่าเรื่องนี้ข้าวใหม่ที่เอามาจากบ้านน้องขิงก็หมดไปเรียบร้อยแล้ว ได้กินข้าวที่โยนเอง เกี่ยวเอง นวดเอง สีเอง มันสุขใจดีจริงๆ ขอบคุณแม่นก พ่อกำพลของน้องขิง และน้าน้ำของปารย์ที่ให้เราแม่ลูกได้มีโอกาสดีๆนี้นี้

Saturday, December 18, 2010

ปารย์ไปช่วยโค้ก บูรณะหลังน้ำท่วม



...ตายงค์ ชวนปารย์ ไปช่วยน้ำท่วม ที่อยุธยา นอกจากทำก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีไข่พะโล้ และช่วยทาสีรั้วโรงเรียนด้วยครับ...

Friday, December 17, 2010

International bangkok street show 2010

ปารย์ ไปทันวันสุดท้าย ก็ยังสนุกตามแบบฉบับ Street show



Thursday, December 02, 2010

งานแต่ง อาลัก

ปารย์ ไปเป็น เจ้าภาพร่วม...

ไดโนเฟสติวัล

งานนี้พลาดไม่ได้ เตรียมตัวกันเป็นปี
ลงทุนเป็นลูกค้าของ ธนชาติ



Wednesday, November 03, 2010

ปารย์จะดู

เช้าวันที่นาฬิกาหยุดเดิน


พ่อ>> ปารย์เดี๋ยวพ่อหาถ่านใส่นาฬิกาก่อน ปารย์ไปกินข้าวให้เสร็จ



ปารย์>> ปารย์จะดู เพราะเดี๋ยวพอพ่อตาย ปารย์จะได้ทำได้



พ่อ>> !!!!

Monday, October 11, 2010

เรือใบ sagres

วันที่ 10 เดือน 10 ปี 10
เรือใบฝึกนักเรียนนายเรือ Sagres จาก โปรตุเกส มาฉลองความสัมพันธ์สยาม-โปรตุกีส กี่ปีก็ไม่รู้จำไม่ได้

















ไม่มีคำบรรยายใดๆ...

Wednesday, September 08, 2010

"ผมแกละ" เป็นไงพ่อ???



ค่ำวันที่ปารย์ต้องนั่งทำการบ้านกับพ่อ ขณะที่ปารย์ทำอย่างตั้งใจ พ่อก็เล่น Net อย่างตั้งใจ มีคำถามลอยมาจากปารย์ "ผมแกละ มันเป็นยังไงพ่อ??"

พ่อก็วิญญาณอาจารย์ เข้าสิง อธิบาย เป็นวรรค เป็นเวร "ที่มันแต่ผม อยู่ข้างๆ ตรงกลางไม่มี ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชาย....."



ปารย์ "เออ มันไม่แปลกๆ เหรอ ไม่มีผมอยู่ตรงกลาง ร้อนแย่"

พ่อพยายามต่อ "สมัยก่อนเด็กผู้ชาย ส่วนใหญ่ก็มีผมแกละกัน"

ปารย์แทรก "ปารย์มีไหม๊??"

พ่อตอบ "ไม่ปารย์ ไม่มี"

ปารย์ร้อง "อ้าว ทำไมไม่มี"

แล้วก็ร้องว่า "อ้อ อย่างนี้ใช่ไหม๊" พร้อมหยิบกระดาษ มาวาดเด็กผมแกละ ลงไป หันมาถาม "ใช่ไหม๊" "อือ" พ่อตอบ แล้วปารย์ก็ วาดคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่



พร้อมอธิบายว่า "คนนี้ ผมแกละ ส่วนผู้ชายผมที่เป็นแบบนี้ อันนี้เป็นผู้หญิง อ้อ ผู้หญิง มีผมจุกด้วยนะ"

Wednesday, August 25, 2010

ปารย์ พาแม่ไปเที่ยว วันแม่!!!



แม่ของแม่ก็ไปด้วย...แถวหาดเจ้าหลาว





พ่อไปเป็นเพื่อนแม่...แหลมเสด็จ เออ แล้วแม่ล่ะ ไมเห็นรูปเลย






นี่ไงแม่...





เราไปที่นี่ด้วย แต่...ปิดเตรียมรับวันแม่ อ้าว...

Tuesday, August 03, 2010

วันที่พ่อป่วย





พ่อตัดสินใจนอนอยู่ชั้นล่าง เพราะกลัวไข้ จะไปติดปารย์กับแม่ ปารย์ก็พยายามบอกว่าพ่อเป็น ไข้หวัดสองพันเก้า แต่ปีนี้สองพันสิบแล้ว พ่อก็ต้องเป็นไข้หวัดสองพันสิบ ขณะหลับๆ ตื่นๆ ก่อนปารย์กับแม่จะขึ้นนอน ปารย์ขออนุญาตแม่ สักครู่ แล้วสิ่งที่วางไว้ข้างๆ พ่อพร้อมกับกำไล "1 ล้านกล้าถวายพ่อ" ที่พ่อหวงทับไว้ คือ




แม่บอกว่า ปารย์ จัดการเองอย่างรวดเร็ว ราวกับว่า เพิ่งจะนึกขึ้นได้ ถามตัวสะกดแม่ อย่างรีบรอน จัดแจงตำแหน่งที่วาง ก่อนขึ้นนอนในนาทีสุดท้าย



แม้บ้านเราจะไม่มีอะไร อะไร อีกหลายอย่าง แต่พ่อก็มีความสุขมากที่มีบ้านเรา มี "ปารย์"
เออ เจาะเลือดแล้ว ไม่มีเชื้อ ไข้เลือดออก คืนนี้นอนห้องแอร์ดีกว่า มันร้อนเหมือนกันนะเนี้ย...

Tuesday, July 20, 2010

ปารย์ทำนา "โยน"

งานนี้เป็นการชวนเด็กกรุงเทพ โดยกำเนิด ไปรู้จักข้าว ที่เรากินกันทุกวัน โดย น้าน้ำเพื่อนแม่ ลงทุนเป็นสารถี ขับไปถึงจังหวัดอุทัยธานี เพื่อทำนา ทุกคนที่นี่ ทำนาอย่าง "แหงนดูฟ้า ท้าแรงโลก" เป็นยังไง ไปดูรูปกัน

ขอย้ำ เด็กกรุงเทพครับ



ช่วยกันขนก่อนนะ

ยังไม่เหนื่อยครับ แฮก แฮกๆๆ

ต้องเตรียมนากันก่อน (อ้าวตรงนั้น มันนาที่ไหน)

ขบวณการ"เด็กโยนกล้า"

ต้องโยนขึ้นไป แล้วให้มันตกลงมานะครับ อย่างนี้ เป็นต้น (ต้องเป็นต้นนะครับ)

โยนอย่างนี้ นะครับ เข้าใจไหมครับ (โอ๊ย หัว)

แถวหน้ากระดาน พร้อม

อ้าว แล้วสองตัวนั้น อะไรนะ

อย่างนี้ ปารย์ ทำได้

ทนไม่ได้แล้ว


ปารย์ ระวังหัวลูก


มันต้องไถนา ไปอย่างนี้ซิ

เย้ เสร็จงานแล้ว ฉลองกันหน่อย หายเหนื่อยเลย