หลังจากปารย์ต้องทดสอบความรู้ ความสามารถ กันครบ 3 วัน (เตรียมอนุบาล เนี้ยะนะ) วันศุกร์ โรงเรียนก็จัดเลี้ยงรับวันปิดเทอมกัน โดยแม่ปารย์ลงแรง จัดการกับสมเช้ง ให้ดูสวยงาม น่ากิน เพื่อปารย์จะได้เอาไปร่วมงานเลี้ยงส่ง ตกเย็นปารย์เอาขนมอะไรไม่รู้มาแบ่งพ่อ เยอะแยะไปหมด แม่บอกว่าเป็นของจากงานเลี้ยง (มีตุนกลับมาเผื่อพ่อ ตั้งแต่เตรียมอนุบาลเลย)ช่วงปิดเทอม แม่ต้องไปทำงาน ออกเรือที่ทะเลซูลู (ไม่รู้จะรอดเจ้าพายุช้างสาร ไม่น๊อ) พ่อกับแม่ ปรึกษากันไม่ลงตัวซะที ว่าปารย์ควรจะทำกิจกรรมอะไร ช่วงปิดเทอม ทางเลือกก็คือ เข้าร่วมกิจกรรม October fun clamp ที่โรงเรียนจัด แพง! อีกทางก็คือให้บ้านไปนั่งเล่น นอนเล่น กินเล่น และเล่นกับเพื่อนที่บ้านเด็ก อันนี้ดี คือถูกดี แต่ปารย์คงเอาแต่ใจน่าดูชม ตอนกลับไปเข้าโรงเรียน ก่อนวันสุดท้าย น้าปุ๋ยก็เสนอทางเลือกให้อีก โดยให้ปารย์ไปอยู่บ้านยาย ที่บางพลัด แรกๆก็ดูไม่น่าเป็นที่สนใจ เท่าไรเพราะกลัวปารย์จะไป ก่อกวน จนญาติๆ จะอยู่กันไม่สุข แต่เมื่อปรึกษา ถก บรรยาย อภิปราย กันอยู่ สองคนคือ พ่อกับแม่ เพราะปารย์ไม่สนใจ สรุปได้ความว่า ปารย์จะย้ายบ้านชั่วคราว 2 สัปดาห์ไปอยู่กลับน้าปุ๋ย น้าปุ๊ก น้าเอ๋ ยาย และอีกหลายคน (มั๊ง) เพื่อให้พ่อใช้ชีวิตนักศึกษา โสด เต็มรูปแบบ (จำเป็นไหม๊ ยิ้มกรุ้มกริ่มเล็กน้อย แต่พองาม มาก) พ่อเลยจำใจ รีบพาปารย์ไปตั้งแต่วันเสาร์เลย (โทษทีวันแรกของช่วงปิดเทอมเลย ด้วยความอาลัยมาก) หลังจาก เราไปส่งแม่ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ (แม่ปารย์ อินเทรน มาก อยากไปรอกระเป๋า ที่ล่าช้า เพื่อว่าจะมีน้องทหารช่วยขน)
พ่อวางแผนว่าจะ หาไมค์ ไปคุยกับปารย์ช่วงกลางวัน โดย Skype ทุกวันเอานะปารย์นะ
ผมชื่อ ปารย์ ละอองมณี ลูกนายวิโรจน์ กับ นางเพ็ญจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2546 ปารย์ แปลว่าผู้มีความสามารถ สามารถทำอะไรที่คนอื่นคาดไม่ถึงครับ!!!
Saturday, September 30, 2006
ปิดเทอม!!
Thursday, September 28, 2006
ปารย์กลับมาแล้ว!!!
หลังจากที่ปารย์ไม่สบาย มีไข้ เพราะ ไอติมอักเสบ!! คือรับไอติมเกินที่ ทอนซิลจะทนได้ ก็เลยอักเสบ ร่วมเวลาก็กว่า 1 สัปดาห์ พ่อกับแม่ก็ต้องประคบประหงม กันตามระเบียบปฏิบัติ
หลังจากไข้ และอาการอื่นๆ หายไป ก็เหลือแต่อาการข้างเคียง คือเอาแต่ใจ ประเภทหมอห้ามขัดใจ คืนก่อน พ่อกับแม่ เลยปล่อยให้ปารย์ เต้นแร็บประกอบคำร้อง ของตัวเองอยู่นานมาก โดยสาเหตุ ก็แค่ต้องการให้พ่ออุ้มไปข้างนอก ง่วงเกินเหตุ จนหลงประเด็น ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร สุดท้ายพ่อทนไม่ไหวต้องโอ๋ กันอีก พ่อถึงกับเครียดอยู่นาน แต่หลังจากวันนั้น อาการข้างเคียงก็ค่อยๆ หายไป จนปารย์คนที่น่ารัก คนเดิมกลับมา พ่อดีใจจัง!!
Monday, September 18, 2006
ดูวัว + ขี่ม้า ตามประสาเด็กๆ
ก๊วนประมงของแม่ได้ฤกษ์พาเด็กไปเที่ยวกัน เป้าหมายแรกคือไปขี่ม้าที่ค่ายอดิศร แต่ต้องผิดหวังเล็กน้อยเพราะพอไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าหมดเวลาแล้วครับ ถ้าจะขี่ม้าต้องมาจองม้าตั้งแต่ 07:30 ฮึฮึ ตอนนั้นเราเพิ่งออกจากบ้านกันเอง พวกเราเลยทำได้แค่พาเด็กไปดูเขาอาบน้ำม้า และดูม้าในคอก อย่างใกล้ชิด
เป้าหมายต่อไป ฟาร์มโชคชัย ละกัน ด้วยว่าเราไปกันวันอาทิตย์คนไปเที่ยวฟาร์มกันเยอะแยะไปหมด เราได้ตั๋วของรอบบ่ายสาม แหนะเลยละเลียดกินกลางวันกันที่ร้านเดรี่ควีนส์ ปากทางเข้าเขาใหญ่
ท่ามกลางสายฝนอ่อยๆ ก๊วนเราเริ่มต้นด้วยการฟังประวัติศาสตร์ฟารม์โชคชัย ต่อด้วยรีดนมวัว อาเจี้ยงพ่ออน้องหนุน เป็นอาสาสมัครเข้าไปรีดนมวัวด้วยวิธีโบราณด้วย สงสารวัวจัง
ต่อด้วยแนะนำการทำไอศครีม อึม !!! มิ้ว ให้ลองชิมนิดหนึง อร่อยดี แล้วก็ไปดูโชว์คาวบอยกัน ในบริเวณนี้มีบริการนั่งรถมา และขี่ม้าสำหรับผู้ใหญ่ด้วย แม่จ่ายไป 100 บาท ให้ปารย์ แม่ ยาย และ พ่อ นั่งรถม้ารอบเล็กๆ 1 รอบ ดูปารย์สนุกสนานมาก ถ้าไม่สนุกแม่เสียดายแย่ ตั้งร้อยหนึง
ส่วนอาโย่งได้ขี่ม้าร้อบเล็กๆอีกเหมือนกัน ไป 1 รอบ (40 บาท) อาโย่งขี่ม้านี่เล่นเอาน้องหนุนน้ำตาไหลพราก เพราะอยากขี่บ้าง และอาเปิ้ลน้ำลายไหลย้อย เพราะอดขี่ เนื่องจากพี่ปิ๊งๆ ไม่อนุญาต พี่ปิ๊ง กลัวแม่ตกม้าอะค่ะ สงสารอาเปิ้ลจังอุตส่าห์เป็นคนชวนมา trip นี้เพราะอยากขี่ม้า แต่เพื่อลูกแม่ยอมได้...
แวะดูการแสดงการฝึกสุนัขของฟาร์มพักหนึ่ง อันที่จริงระหว่างทางเจ้าหน้าที่ของฟาร์มก็ชี้ชวนดูโน่นนี่ในฟาร์มตั้งเยอะแต่จำได้ไม่หมด มันกว้างจัง
ถัดมาเป็นส่วนสวนสัตว์เด็ก และขี่ม้าสำหรับเด็ก ครานี้เป็นทีของน้องหนุน เพราะเธอขอขี่ม้ามาตั้งแต่ตอนอยู่บ้าน เลยขี่ซะสมใจอยาก คาดว่ามากกว่า 10 รอบ ก็รอบละไม่เท่าไร 30 บาทเอง พ่อแม่กระเป๋าเบาไปเลย ลูกปารย์ขี่ไป 1 รอบ ดูก็ชอบอยู่นะ แต่ก็เกร็งๆ เล็กน้อยเวลาอยู่บนหลังม้า ปารย์อาจจะสนุกกับการให้นมลูกวัว และให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์เด็กมากกว่า ที่ยอมขี่ม้านี่ก็มาจากการผลักดันของยายหนะแหละ
ปิดท้ายด้วยการแสดงความสามารถของสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสุนัข สนุกดีเหมือนกัน ดูแล้วก็คุ้มกับค่าเข้า 250 บาทอยู่หรอก ปารย์ก็ได้ประสบการณ์ตรงตั้งหลายอย่างด้วย
เป้าหมายต่อไป ฟาร์มโชคชัย ละกัน ด้วยว่าเราไปกันวันอาทิตย์คนไปเที่ยวฟาร์มกันเยอะแยะไปหมด เราได้ตั๋วของรอบบ่ายสาม แหนะเลยละเลียดกินกลางวันกันที่ร้านเดรี่ควีนส์ ปากทางเข้าเขาใหญ่
ท่ามกลางสายฝนอ่อยๆ ก๊วนเราเริ่มต้นด้วยการฟังประวัติศาสตร์ฟารม์โชคชัย ต่อด้วยรีดนมวัว อาเจี้ยงพ่ออน้องหนุน เป็นอาสาสมัครเข้าไปรีดนมวัวด้วยวิธีโบราณด้วย สงสารวัวจัง
ต่อด้วยแนะนำการทำไอศครีม อึม !!! มิ้ว ให้ลองชิมนิดหนึง อร่อยดี แล้วก็ไปดูโชว์คาวบอยกัน ในบริเวณนี้มีบริการนั่งรถมา และขี่ม้าสำหรับผู้ใหญ่ด้วย แม่จ่ายไป 100 บาท ให้ปารย์ แม่ ยาย และ พ่อ นั่งรถม้ารอบเล็กๆ 1 รอบ ดูปารย์สนุกสนานมาก ถ้าไม่สนุกแม่เสียดายแย่ ตั้งร้อยหนึง
ส่วนอาโย่งได้ขี่ม้าร้อบเล็กๆอีกเหมือนกัน ไป 1 รอบ (40 บาท) อาโย่งขี่ม้านี่เล่นเอาน้องหนุนน้ำตาไหลพราก เพราะอยากขี่บ้าง และอาเปิ้ลน้ำลายไหลย้อย เพราะอดขี่ เนื่องจากพี่ปิ๊งๆ ไม่อนุญาต พี่ปิ๊ง กลัวแม่ตกม้าอะค่ะ สงสารอาเปิ้ลจังอุตส่าห์เป็นคนชวนมา trip นี้เพราะอยากขี่ม้า แต่เพื่อลูกแม่ยอมได้...
แวะดูการแสดงการฝึกสุนัขของฟาร์มพักหนึ่ง อันที่จริงระหว่างทางเจ้าหน้าที่ของฟาร์มก็ชี้ชวนดูโน่นนี่ในฟาร์มตั้งเยอะแต่จำได้ไม่หมด มันกว้างจัง
ถัดมาเป็นส่วนสวนสัตว์เด็ก และขี่ม้าสำหรับเด็ก ครานี้เป็นทีของน้องหนุน เพราะเธอขอขี่ม้ามาตั้งแต่ตอนอยู่บ้าน เลยขี่ซะสมใจอยาก คาดว่ามากกว่า 10 รอบ ก็รอบละไม่เท่าไร 30 บาทเอง พ่อแม่กระเป๋าเบาไปเลย ลูกปารย์ขี่ไป 1 รอบ ดูก็ชอบอยู่นะ แต่ก็เกร็งๆ เล็กน้อยเวลาอยู่บนหลังม้า ปารย์อาจจะสนุกกับการให้นมลูกวัว และให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์เด็กมากกว่า ที่ยอมขี่ม้านี่ก็มาจากการผลักดันของยายหนะแหละ
ปิดท้ายด้วยการแสดงความสามารถของสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสุนัข สนุกดีเหมือนกัน ดูแล้วก็คุ้มกับค่าเข้า 250 บาทอยู่หรอก ปารย์ก็ได้ประสบการณ์ตรงตั้งหลายอย่างด้วย
Wednesday, September 13, 2006
รองเท้าเป็ด
อาทิตย์ที่แล้วไปเดินหาซื้อหมวกจักรยานที่เซ็นทรัลให้พ่อปารย์กัน แต่บังเอิญเดินผ่านส่วนขายรองเท้าเด็ก และกำลังลดราคาอยู่ เลยตัดสินใจอนุญาติให้ปารย์เลือก รองเท้าเอง 1 คู่ แต่พอปารย์เลือกแม่ถึงกับหงายหลัง ไม่ใช่ว่าเพราะราคาหรอกนะ แต่มันเป็นรองเท้าส้นสูงสีชมพูอะ ปารย์คงยังไม่เข้าใจว่าทำไมแม่กับพ่อถึงได้หัวเราะกันขนาดนั้น และคงยังไม่รู้ว่า สีบางสี และของบางอย่างเหมาะถูกคิดขึ้นมาให้เหมาะกับเฉพาะเพศ เฉพาะบุคคล แม่ค่อยๆสอนไปละกันนะ
สุดท้ายหวานล้อมกันอยู่นาน ปารย์ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นรองเท้า สีแดง+น้ำเงิน ที่สามารถใส่ได้ทั้งสองเพศ เออ!! ค่อยยังชั่ว ปารย์เรียกรองเท้าคู่นี้ว่ารองเท้าเป็ด (มีรูปเป็ดอยู่กลางหลังเท้า)
ตั้งแต่ได้รองเท้าเป็ดมาเลยลืมไปเลยว่าไปโรงเรียนต้องใส่รองเท้านักเรียน จะใส่แต่รองเท้าเป็ดเท่านั้นคู่อื่นไม่ยอมใส่ ตอนนี้ปารย์ใส่รองเท่าเป็ดได้คล่องมากทั้งใส่ทั้งถอด ไม่ต้องให้แม่ช่วยเลย
สุดท้ายหวานล้อมกันอยู่นาน ปารย์ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นรองเท้า สีแดง+น้ำเงิน ที่สามารถใส่ได้ทั้งสองเพศ เออ!! ค่อยยังชั่ว ปารย์เรียกรองเท้าคู่นี้ว่ารองเท้าเป็ด (มีรูปเป็ดอยู่กลางหลังเท้า)
ตั้งแต่ได้รองเท้าเป็ดมาเลยลืมไปเลยว่าไปโรงเรียนต้องใส่รองเท้านักเรียน จะใส่แต่รองเท้าเป็ดเท่านั้นคู่อื่นไม่ยอมใส่ ตอนนี้ปารย์ใส่รองเท่าเป็ดได้คล่องมากทั้งใส่ทั้งถอด ไม่ต้องให้แม่ช่วยเลย
Friday, September 01, 2006
บ้านปารย์ ver 2
หลังจากบ้านปารย์ ver1 ที่สร้างมาตั้งแต่ปารย์เริ่มคลานคล่อง และโดนแก๊งเพื่อนปารย์ในซอยยำซะบอบช้ำ แม่กับปารย์เลยช่วยกันซ่อมแซมบ้านหลังเก่าโดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนบางส่วน ชิ้นส่วนนี้แม่ได้อานิสงมาจากการซื้อตู้เย็นใหม่ของ office
บ้าน ver2 นี้ปารย์โตพอจะช่วยแม่ทำได้แล้ว เราเลยสนุกกันใหญ่
อยากเอา รูปบ้าน Ver1 มาแปะไว้ด้วย แต่แม่หาไม่เจอซะที ไม่รู้เอารูปเก่าๆ ไปเก็บไว้ไหน
สำเร็จแบบไม่มีสีสันอีกแล้ว
Subscribe to:
Posts (Atom)